An Earthy father is not enough to be a role model as he is imperfect. God the Father is perfect father. In the Bible, God is called our Father.

“I myself said, “‘How gladly would I treat you like my children and give you a pleasant land, the most beautiful inheritance of any nation.’ I thought you would call me ‘Father and not turn away from following me.” Jeremiah 3:19

Yet you, Lord, are our Father. We are the clay, you are the potter; we are all the work of your hand.-Isaiah 64:8

Its amazing when the bible refers God as our Father and we are His children.

See what great love the Father has lavished on us, that we should be called children of God! And that is what we are! The reason the world does not know us is that it did not know him. 2 Dear friends, now we are children of God, and what we will be has not yet been made known. But we know that when Christ appears,[a] we shall be like him, for we shall see him as he is.-1 John 3:1-2

“I will be a Father to you, and you will be my sons and daughters, says the Lord Almighty.”-2 Corinthians 6:18

We are meant to have a close relationship with God. Lets look at the parable of the lost son:

1)     The story was about a man who had 2 sons.

2)     The second son demanded for and received his inheritance.

3)     He took the money, left home and went to a far away country.

4)     He spent all his money and became poor.

5)     Later he can only work in a job where he fed the pigs and eat what the pigs eat.

6)     He knew he has nothing and realised that he can be a servant in his father’s house.

Luke 15:20-24

So he got up and went to his father. “But while he was still a long way off, his father saw him and was filled with compassion for him; he ran to his son, threw his arms around him and kissed him. 21 “The son said to him, ‘Father, I have sinned against heaven and against you. I am no longer worthy to be called your son.’ 22 “But the father said to his servants, ‘Quick! Bring the best robe and put it on him. Put a ring on his finger and sandals on his feet. 23 Bring the fattened calf and kill it. Let’s have a feast and celebrate. 24 For this son of mine was dead and is alive again; he was lost and is found.’ So they began to celebrate.

I don’t know how long he has been waiting for his son. Maybe people may think that he has become crazy waiting for a son who has turned against him! Don’t you believe in this.  Another passage in the bible shown us that God is patiently for us to come to Him.

In 1 Peter 3:20-21:

to those who were disobedient long ago when God waited patiently in the days of Noah while the ark was being built. In it only a few people, eight in all, were saved through water, 21 and this water symbolizes baptism that now saves you also—not the removal of dirt from the body but the pledge of a clear conscience toward God.[a] It saves you by the resurrection of Jesus Christ,

God waited patiently for people to repent! Luke 15:20: “But while he the son was still a long way off, his father saw him and was filled with compassion for him; he ran to his son, threw his arms around him and kissed him.”. He was looking forward to the return of his son and was very glad for his return. In Greek it says : he kissed him repeatedly despite of the bad smell of his son.

Romans 5:8

But God demonstrates his own love for us in this: while we were still sinners, Christ died for us.

While we are still filthy rags, Christ died for us. Jesus came to the world and died for us. This is the love that we have to follow for our children. Our love must be unconditional and filled with grace.

1 John 4:19, KJV: “We love him, because he first loved us.

We need to make the first move to love our children. We cannot love the children expecting the children to love us. When father saw the son, he shown compassion. He never waited for his son to say sorry. His love rebuild the relationship. The son repented and made the right choice to be reunited to His father. It was after the son repented, the son was restored and received the gifts. The father placed a robe on him, not just any robe but the best robe. What do the Bible says about the “Robe?”

Isaiah 61:10

“I will greatly rejoice in the Lord, my soul shall be joyful in my God; For He has clothed me with the garment of salvation, He has covered me with the robe of righteousness.”

The father also placed a ring on his son. If you read the bible, :

And Jesus came and said to them “All authority in heaven and on earth has been given to me. God therefore and make disciples of all nations, baptizing them in the name of the Father, and of the Son and of the Holy Spirit.” Matthew 28:18-19

The father also puts on a new pair of shoes for his son which he can walk in confidence. A new pair of shoes will bring you a new life and also helps you share the good news:

“How beautiful on the mountains are the feet of those who bring good news, who proclaim peace, who bring good tidings, who proclaim salvation, who say to Zion, “Your God reigns!” Isaiah 52:7

And finally, the feast:

Bring the fattened calf and kill it. Lets have a feast and celebrate”-Luke 15:23

There is similar feast prepared in heaven:

“Then he said to me, “Write: Blessed are those who are called to the marriage supper of the Lamb!” And he said to me, “These are the true sayings of God.” Revelation 19:9

Now we have a picture of our Heavenly father that we can follow. There is no imperfect fathers and all have sinned against God. In Luke 15, he gave us a father we can follow. A patient father, a compassionate and forgiving father. Do not let them go without knowing the Heavenly Father.

Lord’s prayer:

Our Father in heaven,

Hallowed be Your name.

10 Your kingdom come.

Your will be done

On earth as it is in heaven.

11 Give us this day our daily bread.

12 And forgive us our debts,

As we forgive our debtors.

13 And do not lead us into temptation,

But deliver us from the evil one.

[a]For Yours is the kingdom and the power and the glory forever. Amen.

พ่อที่มีนิสัยเหมือนดินไม่เพียงพอที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีได้เพราะเขาไม่สมบูรณ์แบบ  พระเจ้าพระบิดาทรงเป็นพ่อที่สมบูรณ์แบบ  ในพระคัมภีร์เรียกพระเจ้าว่าพ่อของเรา

“เราเองลั่นวาจาไว้ว่า“ ‘เรายินดีเหลือเกินที่จะปฏิบัติต่อเจ้าเยี่ยงลูก
และมอบดินแดนอันน่าปรารถนาแก่เจ้า
เป็นสมบัติอันงดงามที่สุดของชาติต่างๆ’
เราคิดว่าเจ้าจะเรียกเราว่า ‘พ่อ’
และจะติดตามเราโดยไม่หันหนีไปไหนอีกเลย

“ถึงกระนั้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นดินเหนียว พระองค์ทรงเป็นช่างปั้น ข้าพระองค์ทั้งหลายล้วนเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์”

อิสยาห์ 64:8

เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึงพระเจ้าว่าเป็นพ่อของเราและเราเป็นลูกของพระองค์

“ความรักที่พระบิดาทรงมีต่อเราทั้งหลายนั้นใหญ่หลวงปานใดในการที่เราได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า! และเราก็เป็นเช่นนั้น! เหตุที่โลกไม่รู้จักเราก็เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์ เพื่อนที่รัก บัดนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า ภายหน้าเราจะเป็นอย่างไรเรายังไม่อาจรู้ได้ แต่เรารู้ว่าเมื่อพระองค์ทรงปรากฏเราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น”  1ยอห์น 3:1-2

“ความรักที่พระบิดาทรงมีต่อเราทั้งหลายนั้นใหญ่หลวงปานใดในการที่เราได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า! และเราก็เป็นเช่นนั้น! เหตุที่โลกไม่รู้จักเราก็เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์ เพื่อนที่รัก บัดนี้เราเป็นลูกของพระเจ้า ภายหน้าเราจะเป็นอย่างไรเรายังไม่อาจรู้ได้ แต่เรารู้ว่าเมื่อพระองค์ทรงปรากฏเราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น”  1ยอห์น 3:1-2

“เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนี้แหละ”   2โครินธ์ 6:18

เราถูกกำหนดให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า มาดูคำอุปมาเรื่องบุตรหลง

1)     เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่มีลูกชาย 2  คน

2)     ลูกชายคนที่สองเรียกร้องและได้รับมรดกของเขา

3)     เขาเอาเงินออกจากบ้านและไปประเทศที่ห่างไกล

4)    เขาใช้เงินทั้งหมดของเขาและกลายเป็นคนจน

5)    ต่อมาเขาสามารถทำงานได้เฉพาะงานที่เขาเลี้ยงหมูและกินสิ่งที่หมูกิน

6)    เขารู้ว่าเขาไม่มีอะไรเลยและตระหนักว่าเขาสามารถเป็นคนรับใช้ในบ้านของพ่อได้

ลูกา 15:20-24

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้น กลับไปหาบิดาของเขา “แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาเห็นเขาก็สงสาร จึงวิ่งมาหาบุตรชายแล้วสวมกอดและจูบเขา “เขากล่าวกับบิดาว่า ‘บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าทำบาปต่อสวรรค์และต่อท่านด้วย ข้าพเจ้าไม่คู่ควรจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของท่านอีกต่อไป’ “แต่บิดาสั่งคนรับใช้ว่า ‘เร็วเข้า! จงนำเสื้อผ้าที่ดีที่สุดมาให้เขาสวมใส่ เอาแหวนมาสวมนิ้วของเขา และเอารองเท้ามาสวมให้เขา จงนำลูกวัวขุนมาฆ่า ให้เราจัดงานเลี้ยงฉลอง เพราะบุตรชายคนนี้ของเราได้ตายไปแล้วและกลับเป็นขึ้นมาอีก เขาหายไปแล้วและได้พบกันอีก’ ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงเริ่มเฉลิมฉลองกัน

ฉันไม่รู้ว่าเขารอลูกชายมานานแค่ไหนแล้ว  บางทีคนอาจจะคิดว่าเขาบ้าไปแล้วกับการรอลูกชายที่หันหลังให้เขา!  คุณไม่เชื่อในสิ่งนี้  อีกตอนหนึ่งในพระคัมภีร์แสดงให้เราเห็นว่าพระเจ้าอดทนรอให้เรามาหาพระองค์

ใน  1 เปโตร 3:20-21

วิญญาณซึ่งในอดีตไม่เชื่อฟังเมื่อครั้งพระเจ้าทรงอดทนรอคอยในสมัยของโนอาห์ขณะที่เขาต่อเรือ ในเรือนี้มีคนเพียงไม่กี่คนคือแปดคนเท่านั้นที่พระเจ้าทรงใช้น้ำช่วยพวกเขาให้รอดชีวิต น้ำนี้เล็งถึงบัพติศมาซึ่งบัดนี้ช่วยท่านทั้งหลายให้รอดเช่นกัน บัพติศมาไม่ใช่เป็นการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แต่เป็นการปฏิญาณต่อพระเจ้าว่าจะรักษาจิตสำนึกที่ดี บัพติศมาช่วยท่านให้รอดโดยการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์

พระเจ้ารอคอยอย่างอดทนเพื่อให้ผู้คนกลับใจ!

ลูกา 15:20 “แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาเห็นเขาก็สงสาร จึงวิ่งมาหาบุตรชายแล้วสวมกอดและจูบเขา”     เขารอคอยการกลับมาของลูกชายและดีใจมากที่กลับมา  ในภาษากรีกว่า : เขาจูบลูกชายของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆ ที่ลูกชายของเขามีกลิ่นเหม็น

โรม 5:8

แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์เองแก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเรา

ในขณะที่เรายังคงเป็นผ้าขี้ริ้ว พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา  พระเยซูเสด็จมาในโลกและสิ้นพระชนม์เพื่อเรา  นี่คือความรักที่เราต้องติดตามเพื่อลูกหลานของเรา  ความรักของเราต้องไม่มีเงื่อนไขและเต็มไปด้วยพระคุณ

1 ยอห์น 4:19   “เราทั้งหลายรักพระองค์ ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน”

เราต้องลงมือทำก่อนเพื่อรักลูกของเรา  เราไม่สามารถรักลูกโดยคาดหวังให้ลูกรักเรา  เมื่อพ่อเห็นลูกก็แสดงความเมตตา  เขาไม่เคยรอให้ลูกชายพูดขอโทษ  ความรักของเขาสร้างความสัมพันธ์ใหม่  ลูกชายกลับใจและเลือกได้ถูกต้องที่จะกลับไปหาพ่อของเขาอีกครั้ง  หลังจากลูกชายกลับใจ ลูกชายได้รับการฟื้นฟูและได้รับของขวัญ  พ่อได้สวมเสื้อคลุมให้กับเขา ไม่ใช่แค่เสื้อคลุมแบบทั่วไป  แต่เป็นเสื้อคลุมที่ดีที่สุด  พระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างไรเกี่ยวกับ  “เสื้อคลุม”

หนังสืออิสยาห์ 61:10

“ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระเยโฮวาห์ จิตใจของข้าพเจ้าจะลิงโลดในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงสวมข้าพเจ้าด้วยเสื้อผ้าแห่งความรอด พระองค์ทรงคลุมข้าพเจ้าด้วยเสื้อแห่งความชอบธรรม”

พ่อยังวางแหวนให้ลูกชายของเขา  หากคุณอ่านพระคัมภีร์:

พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้ แล้วตรัสกับเขาว่า “ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดี ทรงมอบไว้แก่เราแล้ว เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์”  มัทธิว 28:18-19

พ่อยังสวมรองเท้าคู่ใหม่ให้ลูกชายเดินได้อย่างมั่นใจ  รองเท้าคู่ใหม่จะทำให้คุณมีชีวิตใหม่และช่วยให้คุณแบ่งปันข่าวประเสริฐ :

“เท้าของผู้ประกาศข่าวประเสริฐมา ก็งามสักเท่าใดที่บนภูเขา ผู้โฆษณาสันติภาพ ผู้ประกาศข่าวประเสริฐแห่งสิ่งอันประเสริฐ ผู้โฆษณาความรอด ผู้กล่าวแก่ศิโยนว่า “พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง””

หนังสืออิสยาห์ 52:7

และสุดท้าย งานเลี้ยง:

จงนำลูกวัวขุนมาฆ่า ให้เราจัดงานเลี้ยงฉลอง  ลูกา 15:23

มีงานฉลองที่คล้ายกันเตรียมไว้ในสวรรค์:

“และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า “จงเขียนไว้เถิดว่า ความสุขมีแก่คนทั้งหลายที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก” และท่านบอกข้าพเจ้าว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระดำรัสแท้ของพระเจ้า””

หนังสือวิวรณ์ 19:9

ตอนนี้เรามีภาพของพ่อบนสวรรค์ของเราที่เราสามารถทำตามได้ ไม่มีพ่อที่ไม่สมบูรณ์และทุกคนทำบาปต่อพระเจ้า   ในลูกา 15 พระองค์ประทานบิดาให้เราได้ทำตาม พ่อที่อดทน เป็นพ่อที่เมตตาและให้อภัย  อย่าปล่อยให้พวกเขาไปโดยไม่รู้จักพ่อบนสวรรค์

คำอธิษฐานของพระเจ้า:

ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ

10 ขอให้อาณาจักรของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก

11 ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้

12 และขอทรงโปรดยกหนี้ของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกหนี้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์นั้น

13 และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้าย

[ก] เหตุว่าอาณาจักรและฤทธิ์เดชและสง่าราศีเป็นของพระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ เอเมน