เมื่อเรานึกถึงคริสตจักรเรามักจะนึกถึงการเทศนาและการนมัสการ มีองค์ประกอบของคริสตจักรที่เรามักจะเสียใจ พระเยซูตรัสว่าคริสตจักรจะเป็นบ้านแห่งการอธิษฐาน  การอธิษฐานเป็นหนึ่งในคําจํากัดความของคริสเตียนและศาสนจักร 

พระเจ้าออกแบบให้เราต้องการที่จะสื่อสารกับพระองค์ในการอธิษฐาน พวกเราหลายคนไม่อธิษฐานเพราะเราไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริงหรือพระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเรา 

ย้อนกลับไปในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมแทบไม่ได้อธิษฐานเลย มีคนมาท้าให้ผมอธิษฐานวันละ 1 ชม. ผมรับความท้า  และผมพยายามอธิษฐานทุกวัน และมันก็ยากมาก ผมนมัสการ  อธิษฐานเป็นภาษาต่างๆ (ผมก็ไม่รู้ว่าผมอธิษฐานอย่างถูกต้องไหม!)  วันหนึ่งผมได้ยินเสียงเมื่อผมอธิษฐานและฉันได้ยินพระเจ้าตรัสกับผมอยู่เรื่อยๆ และหลายสิ่งหลายอย่างที่พระเจ้าตรัสก็เกิดขึ้น ที่เปลี่ยนชีวิตของผม เมื่อผมได้ยินพระเจ้า ชีวิตของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป การอธิษฐานกลายเป็นความปรารถนาและความสุขของผม 

 ให้ผมข้าไปในพระกิตติคุณของลูกาสําหรับเคล็ดลับที่เกี่ยวกับการอธิษฐานอ้อนวอน: 

  1.  อุปมาเรื่องแม่ม่ายดื้อรั้น – จงอธิษฐานอย่างไม่ลดละ

 แล้วพระเยซูตรัสคำอุปมาสอนเหล่าสาวกให้อธิษฐานเสมออย่างไม่ลดละ 2พระองค์ตรัสว่า “ในเมืองหนึ่งมีผู้พิพากษาคนหนึ่งซึ่งไม่เกรงกลัวพระเจ้าและไม่เห็นแก่หน้ามนุษย์คนใด 3ในเมืองนั้นมีหญิงม่ายคนหนึ่งที่เพียรมาหาเขา และพร่ำวิงวอนว่า ‘กรุณาให้ความยุติธรรมในคดีของข้าพเจ้าด้วยเถิด’ -ลูกา 18:1-3 

หากเราเชื่อว่านี่คือวาระสุดท้าย เราจะอธิษฐานต่อไปหรือไม่? แน่นอนว่านี่เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน พระเยซูทรงทราบว่าเราไม่ควรท้อแท้และยังคงอธิษฐานต่อไป 

ในอุปมานี้ ผู้พิพากษาไม่สนใจพระเจ้าหรือมนุษย์จริงๆ หญิงม่ายไม่ได้ขอมากเกินไป แต่ได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม ผมเชื่อว่าพระเยซูทรงเลือกหญิงม่ายที่หมดหนทาง  ขึ้นอยู่กับความเมตตาของผู้พิพากษา เราพึ่งพาพระเมตตาจากพระเจ้าเช่นกัน  

 4“ผู้พิพากษานั้นปฏิเสธนางอยู่ระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดเขานึกในใจว่า ‘ถึงแม้เราไม่เกรงกลัวพระเจ้า และไม่เห็นแก่หน้ามนุษย์คนใด 

5แต่เพราะหญิงม่ายคนนี้คอยกวนใจเราอยู่ตลอดเวลา เราจะให้ความยุติธรรมแก่นาง เพื่อนางจะได้ไม่มารบกวนให้เราระอาใจ!’ ”

6และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “จงฟังคำพูดของผู้พิพากษาอยุติธรรมคนนี้ 7แล้วพระเจ้าจะไม่ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรหรือ? ในเมื่อเขาร้องทูลพระองค์ทั้งวันทั้งคืน พระองค์จะทรงผัดผ่อนเขาอยู่ร่ำไปหรือ? 8เราบอกท่านว่า พระองค์จะทรงดูแลให้พวกเขาได้รับความยุติธรรมโดยเร็ว แต่เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา พระองค์จะพบความเชื่อในโลกหรือ?”

แม้แต่ผู้พิพากษาที่ไม่ยุติธรรมก็ยังให้ความยุติธรรมเพราะความเพียรของหญิงม่าย พระเจ้ายุติธรรม! พระเจ้าเรียกเราว่าผู้ที่พระองค์ทรงเลือก พระเจ้าจะทรงดำเนินความยุติธรรมแทนเราในทันที  

ให้เราไตร่ตรองพระเจ้ามากขึ้น ขอให้เราไตร่ตรองในพระวจนะของพระองค์ นมัสการ และการอธิษฐาน หากเราใช้เวลาดูโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเ ราอาจพลาด ช่วงเวลาเหล่านั้นที่เราสามารถไตร่ตรองถึงพระเจ้าได้ 

คําถาม: เราจะเข้าใจความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงตรงเวลาพร้อมตอบรับคําอธิษฐานอ้อนวอนของเราอย่างไร และเราจําเป็นต้องอดทนในการอธิฐาน 

 พระเจ้าทรงกำลังค้นหาศรัทธาบนแผ่นดินโลก (v8) 

เราเชื่อหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงมีฤทธิ์อํานาจ ความรักทั้งหมด และเฉลียวฉลาด 

พวกเราหลายคนคิดว่าพระเจ้าอาจจะสายเสมอ แต่พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่าพระองค์ทรงพร้อมจะตอบเรา ในเวลาของพระองค์ ไม่ใช่ของเราเสมอไป 

เมื่อเราไม่สามารถติดตามพระหัตถ์ของพระองค์ได้ เรายังคงวางใจในพระทัยของพระองค์ได้หรือไม่? มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ในการอธิษฐาน  ก่อนที่ผู้เขียนภาษาฮีบรูจะสรรเสริญโนอาห์สําหรับศรัทธาและการเชื่อฟังพระเจ้า  

โดยความเชื่อเมื่อโนอาห์ได้รับคำเตือนถึงเรื่องต่างๆ ที่ยังมองไม่เห็น ด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าเขาจึงได้ต่อเรือใหญ่เพื่อช่วยครอบครัวให้รอด โดยความเชื่อของเขา เขาได้ตัดสินโทษโลกและได้กลายเป็นทายาทแห่งความชอบธรรมที่มีมาโดยความเชื่อ – ฮีบรู 11:7 

ถ้าไม่มีความเชื่อก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัย เพราะผู้ที่จะมาหาพระเจ้าต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่และประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง -ฮีบรู 11:6 

เราจะมีศรัทธาในพระเจ้าเพื่อว่าเราจะซื่อสัตย์ในการอธิฐานต่อพระเจ้าหรือไม่ พระเยซูจะทรงพบศรัทธาบนแผ่นดินโลกไหม?  พระเยซูจะ ทรงพบศรัทธาในตัวเราหรือไม่?  เมื่อพระองค์เสด็จมา พระองค์ทรงแสวงหาศรัทธา คุณมีศรัทธาในพระองค์หรือไม่? 

 ข) คำอุปมาเรื่องฟาริสีกับคนเก็บภาษี 

ลูกา 18:9-10  

สำหรับบางคนที่มั่นใจในความชอบธรรมของตนเองและดูถูกคนอื่นทั้งปวงนั้น พระเยซูตรัสคำอุปมานี้ว่า 10“ชายสองคนไปที่พระวิหารเพื่ออธิษฐาน คนหนึ่งเป็นฟาริสี และอีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี

 พวกฟาริสีเป็นสัญลักษณ์แห่งความชอบธรรม และคนเก็บภาษีเป็นสัญลักษณ์ของความอธรรม พวกฟาริสีทำทุกอย่างถูกต้อง เขาอธิษฐาน อดอาหาร และแม้กระทั่งให้เงินทั้งหมดนี้แก่วัด! เขาจะทำอะไรผิดได้อีก?  มีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้น  เขามาหาพระเจ้าด้วยข้อดีของเขาและไม่ได้ขึ้นอยู่กับพระเจ้า นอกจากนี้เรายังไม่เห็นว่าเราได้ล้มเหลวตามมาตรฐานของพระเจ้า: เราไม่เห็นสิ่งนั้นแม้ว่าเราจะอดอาหาร แต่เราไม่ได้ละเว้นจากความเห็นแก่ตัว แม้ว่าเราจะมอบให้กับคริสตจักร แต่เราไม่ได้ให้ความกตัญญู อย่างไรก็ตามคนเก็บภาษีอธิษฐานด้วยความรู้สึกต้องการพระเมตตาจากพระเจ้า เป็นท่าทีอธิษฐานที่พระเจ้าพอพระทัย  

 ลูกา 18:14 

“เราบอกท่านว่า คนนี้ต่างหากที่กลับบ้านไปโดยถือว่าเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า เพราะทุกคนที่ยกตนเองขึ้นจะถูกทำให้ต่ำลง และผู้ที่ถ่อมตนลงจะได้รับการเชิดชูขึ้น”

วิธีเดียวที่จะเข้าสู่บัลลังก์ของพระเจ้าคือการไปหาพระเจ้าด้วยความเมตตา และขอพระคุณของพระองค์ในความใจสลายของคุณ เราอธิษฐานด้วยทัศนคติอะไรในแต่ละวัน? 

เมื่อเราถ่อมตัวลงต่อพระพักตร์พระเจ้า พระเจ้าจะเข้ามาใกล้เรา แม้เมื่อเรายังคงอธิษฐานภาวนา ให้เรามาหาพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ แสวงหาความเมตตาจากพระองค์ 

วิธีเดียวที่คนบาปจะเป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า คือการยอมรับว่าเราขาดความชอบธรรมส่วนตัว และต้องการความเมตตาจากพระเจ้า  

วิธีเดียวที่คนบาปจะเข้าสู่ห้องบัลลังก์ของพระเจ้าด้วยการอธิษฐานคือเข้าไปด้วยความถ่อมตัวและใจสลาย 

สรุป: รักษาในการอธิฐาน คําตอบของพระเจ้าอยู่ใกล้  จงนอบน้อมถ่อมตน พระเจ้าอยู่ใกล้