ผมไม่ได้ขายประกัน แต่เป็นหลักประกันของพระเจ้าในช่วงความไม่แน่นอน เรายังคงอยู่ท่ามกลางโรคระบาดและเราไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคต จะเกิดอะไรขึ้นกับงานของผม  ครอบครัวของผม เมื่อเราตรวจสอบสดุดีบทที่ 139 เราจะเห็นหลักประกันความแน่นอนของพระเจ้าสําหรับเราท่ามกลางความไม่แน่นอน  

สดุดี 139:1-4 

 

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ทรงตรวจตราจิตใจของข้าพระองค์

และพระองค์ทรงรู้จักข้าพระองค์

2พระองค์ทรงทราบเมื่อข้าพระองค์นั่งลงและลุกขึ้น

พระองค์ทรงประจักษ์ความคิดของข้าพระองค์แต่ไกล

3พระองค์ทรงหยั่งรู้วิถีทางและการหยุดพักของข้าพระองค์

พระองค์ทรงคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์

4ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ก่อนที่ข้าพระองค์จะเอ่ยปาก

พระองค์ก็ทรงทราบความทั้งสิ้นแล้ว 

 

  • สิ่งแรกที่เมื่อเราอ่านในสดุดี 139 เราได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงรู้และเข้าใจเราดีที่สุดไ ม่เหมือนใครในโลกนี้ 

 พวกเขาบอกเราในการให้คำปรึกษาอย่าบอกใครว่าคุณเข้าใจบุคคลนั้น แต่พระเจ้าทรงตรัสว่าพระองค์เข้าใจคุณ นี่คือความมั่นใจคำรับรองจากพระผู้เป็นเจ้าดังที่พระองค์ทรงเข้าใจเราเมื่อพระองค์ทรงสร้างเรา พระเยซูทรงดํารงอยู่ในฐานะมนุษย์และพระองค์ทรงเข้าใจอย่างแน่นอนว่าการเป็นมนุษย์เป็นอย่างไร 

 

  • อีกหนึ่งความมั่นใจที่เรารวบรวมจากสดุดี 139 ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเรา สดุดี 139:7-10: 

ข้าพระองค์จะไปที่ไหนให้พ้นจากพระวิญญาณของพระองค์ได้?

ข้าพระองค์จะหนีไปที่ไหนให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์?

8หากข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ประทับอยู่ที่นั่น

หากข้าพระองค์นอนลงในแดนมรณา พระองค์ก็ประทับที่นั่น

9หากข้าพระองค์บินไปด้วยปีกแห่งรุ่งอรุณ

หากข้าพระองค์ไปอยู่ที่มหาสมุทรสุดไกลโพ้น10แม้แต่ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์ก็จะทรงนำข้าพระองค์

พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็จะยึดข้าพระองค์ไว้มั่น

 

  • พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเราแม้ในยามมืดมิด ท่ามกลางความไม่แน่นอน สดุดี 139:10-12 

หากข้าพระองค์กล่าวว่า “แน่นอน ความมืดจะบังเราไว้

และความสว่างจะกลายเป็นค่ำคืนรอบตัวเรา”

สำหรับพระองค์ แม้ความมืดก็ไม่มืด

กลางคืนก็สว่างดั่งกลางวัน

เพราะสำหรับพระองค์ ความมืดก็เป็นดั่งความสว่าง

เมื่อเราพูดถึงเรื่องราวของโจเซฟ นี่เป็นตัวอย่างคลาสสิกในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าสถิตกับโจเซฟ  เขาถูกพรากไปจากครอบครัวและถูกปล้นความฝันของเขาไปว่าเขาจะเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่  เขาถูกพรากไปจากครอบครัว ถูกทรยศหักหลังโดยพี่น้องของเขา และถูกกล่าวหาว่าทำผิด พระคัมภีร์ไบเบิล มีการเน้นย้ำว่า “พระเจ้าสถิตอยู่กับโยเซฟ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

  • พระเจ้าทรงห่วงใยเราจริงๆ ท่านรู้สึกถึงความห่วงใยของพระองค์หรือไม่? สดุดี 139:13-18  

เพราะพระองค์ทรงสร้างส่วนลึกล้ำภายในตัวข้าพระองค์

พระองค์ทรงถักทอข้าพระองค์ขึ้นในครรภ์มารดา

14ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์อย่างมหัศจรรย์และน่าครั่นคร้าม

ฝีพระหัตถ์ของพระองค์อัศจรรย์

ข้าพระองค์ทราบดี

15โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ซ่อนเร้นจากพระองค์

เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างขึ้นในที่ลี้ลับ

เมื่อข้าพระองค์ถูกถักทอขึ้นในห้วงลึกแห่งแผ่นดินโลก

16พระเนตรของพระองค์ทรงเห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ข้าพระองค์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง

ทุกวันคืนที่กำหนดไว้สำหรับข้าพระองค์

ทรงบันทึกไว้ในสมุดของพระองค์

ก่อนที่วันเหล่านั้นจะมาถึง

17ข้าแต่พระเจ้า! พระดำริของพระองค์สำหรับข้าพระองค์นั้นเลิศล้ำ! 

รวมกันแล้วก็ยิ่งใหญ่นัก!

18หากจะนับ

ก็มากยิ่งกว่าเม็ดทราย

เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์ยังคงอยู่กับพระองค์ 

รู้สึกสบายใจจริงๆ ที่ได้ยินคำรับรองที่ว่าพระเจ้าห่วงใยเราจริงๆ พระองค์ทรงสร้าง เรา และเราถูกสร้างอย่างน่าเกรงขามและน่าอัศจรรย์ วันหนึ่งผมได้รับแจ้งว่าไตของผมล้มเหลวและจะต้องฟอกไตตลอดชีวิต ผมคิดว่าผมจะตายหลังจากหัวใจวาย ผมอธิษฐานและร้องทูลขอให้พระเจ้ารักษา ผมโกรธพระเจ้าเพราะผมรับใช้พระเจ้ามานานกว่า 30 ปี และสงสัยว่าผมจะ รับใช้พระองค์ต่อไปได้อย่างไรด้วยโรคประจําตัว ฉันกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการฟอกไต “แล้วไงต่อ” คืนหนึ่งผมเกิดความสงสัยและอธิษฐานต่อพระเจ้าตอนที่ผมอยู่ในโรงพยาบาล ผมสงสัยว่าพระเจ้าห่วงใยผมหรือไม่ พระเจ้าทรงปรนนิบัติต่อผมมื่อผมใคร่ครวญพระวจนะของพระองค์ ผมเริ่มเห็นความดีในพระเจ้าและสงสัยเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อผมสำหรับอาการเจ็บป่วยนี้ ในช่วง 5 ปีนี้ผมได้ตระหนักว่าพระเจ้าทรงห่วงใยดูแลผม พระองค์จัดหาให้ผมและผมยังคงสามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นได้โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยด้วยโรคไต ผมรู้สึกขอบคุณที่ผมสามารถผ่านสิ่งนี้ไปได้  

 

  •  พระเจ้าจะทรงต่อสู้เพื่อท่าน: สดุดี 139:19-22

ข้าแต่พระเจ้า! ขอทรงประหารคนชั่วเถิด

เจ้าคนกระหายเลือด จงไปให้พ้น!

20พวกเขากล่าวถึงพระองค์ด้วยเจตนาชั่ว

ศัตรูของพระองค์ใช้พระนามของพระองค์ในทางมิชอบ

21ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ไม่ได้เกลียดชังผู้ที่เกลียดชังพระองค์หรือ?

ข้าพระองค์ไม่ได้สะอิดสะเอียนผู้ที่บังอาจลุกขึ้นต่อสู้พระองค์หรือ?

22สำหรับพวกเขา ข้าพระองค์มีแต่ความเกลียดชัง และนับเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์

 

พระเจ้าจะทรงต่อสู้เพื่อผม เราไม่จําเป็นต้องดิ้นรนหรือต่อสู้กับพระเจ้า บางครั้งเราคิดว่าการแพร่ระบาดเป็นสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเราคลื่นแล้วคลื่นเล่า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับการระบาดใหญ่นี้ได้  เราช่วยอะไรไม่ได้  สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ท่ามกลางการต่อสู้กับศัตรู เราต้องยอมแพ้ เราต้องยอมจำนนต่อพระเจ้าผู้ทรงเป็นกำลังของเรา เป็นที่ลี้ภัย เป็นหอคอยอันแข็งแกร่งของเรา 

 

  • การยอมจํานนทั้งหมด: สดุดี 139: 23-24 

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจตราดูเถิด และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์

ขอทรงตรวจสอบและประจักษ์แจ้งความคิดกระวนกระวายของข้าพระองค์ โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวของข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์