1^st session of Holy Spirit series: The Person of the Holy Spirit Key verse: 2 Corinthians 13:14 (NKJV)

Big idea: Pray to the Father, in the Name of Jesus with the anointing of the Holy Spirit

2^nd Session: The presence of the Holy Spirit

Big idea: Believe God in our prayers and do what the Holy Spirit says.

3^rd session: The prayer of the Holy Spirit

Big idea: Partner with the Holy Spirit by standing in agreement with Him and receive, take hold, grab hold the help from the Holy Spirit.

ตอนที่1  เรื่องราวของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ข้อสำคัญของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 2โครินธ์ 13:14

ใจความสำคัญ  คือการอธิษฐานต่อพระบิดาในนามของพระเยซูด้วยการเจิมของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ตอนที่2   การทรงสถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ใจความสำคัญ  คือการเชื่อพระเจ้าในคำอธิษฐานของเราและทำตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัส

ตอนที่3  การอธิษฐานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ใจความสำคัญ  คือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยยืนหยัดในข้อตกลงกับพระองค์และจงยึดความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

1 Thessalonians 5:19-22

Do not quench the Spirit. Do not despise prophecies. Test all things; hold fast to what is good. Abstain from every form of evil.

Prophetic gifts still exist. How do we reconcile the fact that people don’t believe in prophetic gifts? In love, we unite. The power of the HS is shown through spiritual gifts.

7 pointer questions:

1.      Prophetic gifts still exist or ceased?

2.      Why exercise prophetic gifts is important?

3.      What prophesy is not?

4.      What is prophesy?

5.      What is the purpose of the gift of prophesy?

6.      How to receive the gift of prophecy?

7.      How to test the prophetic words

1 เธสะโลนิกา 5:19-22

“อย่าดับพระวิญญาณ อย่าประมาทคำพยากรณ์ จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น จงเว้นเสียจากสิ่งที่ดูเหมือนชั่วทุกอย่าง”

ของประทานจากการเผยพระวจนะยังคงมีอยู่  เราจะปรับความเข้าใจในความจริงกับผู้คนที่ไม่เชื่อในของประทานในเชิงพยากรณ์ได้อย่างไร ในความรักที่พวกเราได้มาร่วมกันนั้น อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะปรากฏผ่านของประทานฝ่ายวิญญาณ

7 คำถาม

1.  ของประทานแห่งการเผยพระวจนะยังคงมีอยู่หรือไม่?

2.  เหตุใดการใช้ของประทานเชิงพยากรณ์จึงสำคัญ?

3.  อะไรที่ไม่ใช่คำพยากรณ์?

4.  คำพยากรณ์คืออะไร?

5.  ของประทานแห่งการเผยคำพยากรณ์มีจุดประสงค์อะไร?

6.  เราจะรับของประทานแห่งคำพยากรณ์ได้อย่างไร?

7.  วิธีทดสอบคำพยากรณ์

a) Has perfection has come? Certainly not! Some believe that perfection is the closing of scripture when Revelation has come. We agree that that our knowledge is still not perfect. When perfection comes, we will see clearly and fully. (1 cor 13:8)

b) New testament has prophets. (Acts 13:1, Acts 21;9-11)

c) Paul urged Timothy. (Tim 4:14) not to neglect the gift that is given to him which is given by prophecy.

A)    ความสมบูรณ์แบบมาถึงแล้วหรือไม่?  คำตอบคือไม่อย่างแน่นอน!  มีบางคนเชื่อว่าความสมบูรณ์แบบคือการปิดพระคัมภีร์ลง เมื่อมีการเปิดเผยได้มาถึง. เรายอมรับว่าความรู้ของเรายังไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อความสมบูรณ์แบบมาถึงเราจะได้เห็นอย่างชัดเจนและอย่างเต็มที่  (1 โครินธ์ 13:8)

B)   พันธสัญญาใหม่มีผู้เผยพระวจนะ (กิจการ 13:1 กิจการ 21: 9-11)

C)   อาจารย์เปาโลกระตุ้นทิโมธี (1ทิโมธี4:14) อย่าละเลยของประทานที่มีอยู่ในตัวท่าน ซึ่งได้ทรงประทานแก่ท่านตามคำพยากรณ์

a)      Prophetic gifts is mentioned more than any other spiritual gifts. (Romans 12:6, 1 Cor 12:28-29; 13:1-3,8; 14:6, Ephe 4:11)

b)     Paul instructs us to desire spiritual gifts

Esp prophecy. (1 cor 14:1)

c)      We are instructed not to quench the Spirit, do not despise prophecies

a)       ของประทานแห่งการเผยพระวจนะถูกกล่าวถึงมากกว่าของประทานทางวิญญาณอื่น ๆ  (โรม 12:6, 1โครินธ์ 12:28-29, 13:1-3,8, 14:6, เอเฟซัส 4:11)

b)     อาจารย์เปาโลได้แนะนำให้เราปรารถนาของประทานฝ่ายวิญญาณ โดยเฉพาะคำพยากรณ์  (1 โครินธ์ 14:1)

c)      เราได้รับคำสั่งไม่ให้ดับพระวิญญาณ จงอย่าดูหมิ่นคำพยากรณ์

a)      New and additional revelation on top of the bible. (2 Peter 1:20-21; Rev 22:18-19; Gal 1:8-9)

b)     About a person’s character.

-God’s gifts and God’s rewards are different. -Think of Saul (Sam 19)and Balaam. (Numbers 22)

-Matthew 7:21-23 – Not everyone can enter in the Kingdom though they prophesies.

C) The calling to the office of Prophet.

1 Cor 12:27-31- Not all are called to the office of prophet. All can prophesy, all can learn, all can be encouraged.

3.      อะไรที่ไม่ใช่คำพยากรณ์?

a)      การเปิดเผยใหม่และเพิ่มเติมในส่วนบนของพระคัมภีร์ (2 เปโตร 1: 20-21; วิวรณ์ 22: 18-19; กาลาเทีย 1: 8-9)

b)     เกี่ยวกับลักษณะของบุคคล

–   ของประทานจากพระเจ้า และรางวัลจากพระเจ้านั้นก็แตกต่างกัน -ให้นึกถึงซามูเอล (1ซามูเอล 19) และ บาลาอัม (กันดารวิถี 22)

–   มัทธิว 7:21-23 – ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้ามาในอาณาจักร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักพยากรณ์

C)    การทรงเรียกไปยังสำนักพยากรณ์

1โครินธ์ 12:27-31-  ไม่ใช่ทุกคนที่ถูกเรียกไปยังที่สำนักพยากรณ์ ทุกคนสามารถพยากรณ์ ทุกคนสามารถเรียนรู้ ทุกคนสามารถได้รับการสนับสนุน

a)      It is a gift not calling to the office of prophecy

b)     It is about serving others

c)      The gift of prophecy is the ability to speak God’s message

d)     Prophetic utterances can be for the church or individual

e)     Prophesy does not always refer to the future. Proclaiming, Sing, Speak a bible verse.

a)      เป็นของประทานซึ่งไม่ได้เรียกว่าเป็นสำนักของคำพยากรณ์

b)     เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับใช้ผู้อื่น

c)      ของประทานแห่งการพยากรณ์คือความสามารถในการพูดข้อความของพระเจ้า

d)     คำพูดของผู้เผยพระวจนะก็สามารถใช้ได้ทั้งในคริสตจักร หรือรายบุคคล

e)     การเผยคำพยากรณ์ไม่ได้หมายถึงอนาคตเสมอไป ซึ่งจะมีทั้ง การประกาศ การร้องเพลง การพูดข้อพระคัมภีร์

a)      Edify, exhort, comfort (1 cor 14:1-6, acts 15:32)

b)     Make God’s presence known. (1 Cor 14:23-25

a)      เทศนา ตักเตือน และความสะดวกสบาย (1โครินธ์ 14:1-6, กิจการ 15:32)

b)     ทำให้การทรงสถิตของพระเจ้าเป็นที่รู้จัก (1 โครินธ์ 14: 23-25)

a)      Hunger and thirst and ask God for it. (Isaiah 55:1-3, John 7:37)

a)      หิวกระหายในการทูลขอพระเจ้า (อิสยาห์ 55: 1-3, ยอห์น 7:37)

a)      Must align God’s word

b)     Character test (Fruits of the Spirit)

c)      Conviction test (Not condemn but to encourage people to turn to God)

d)     Collective test (people in church agree)

a)      ต้องสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้า

b)     ทดสอบความประพฤติตน (ผลของวิญญาณ)

c)      ทดสอบความเชื่อมั่น (ไม่ใช่การประณามกล่าวโทษ แต่เพื่อหนุนใจให้ผู้คนหันมาหาพระเจ้า)

d)     การทดสอบโดยรวม (ซึ่งคนในคริสตจักรต่างก็เห็นด้วย)

Margaret sensed that the Holy Spirit was moving when she and Pastor Klein was ministering the a church in Malaysia. When she was translating Pastor’s sermon into Chinese, a vision came to her. The word “Downcast” came to her mind. She shared her vision. Margaret shares “a lady who feels that she has no more dreams in life, feeling hopeless and do not know want to serve God anymore.” Two women came (mother and daughter) to her, and she is depressed. Her daughter insisted that she comes to church believing that God has a word for her. She is grateful that God has spoken to her.

คุณมาร์กาเร็ตรู้สึกได้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังเคลื่อนไหวเมื่อเธอและศิษยาภิบาลไคลน์กำลังทำพันธกิจศาสนจักรในมาเลเซีย  เมื่อเธอกำลังแปลคำเทศนาของศิษยาภิบาลเป็นภาษาจีนอยู่นั้น เธอก็ได้เกิดนิมิตขึ้นมา คำว่า “สิ้นหวังเศร้าใจ” อยู่ในความคิดของเธอ และต่อมาเธอก็ได้บอกเล่าเกี่ยวกับนิมิตของเธอ  คุณมากาเร็ตเล่าว่า“ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความฝันในชีวิตอีกแล้ว รู้สึกสิ้นหวัง และไม่อยากที่จะรับใช้พระเจ้าอีกต่อไป”  ต่อมาได้มีผู้หญิงสองคน (แม่และลูกสาว) มาหาคุณมากาเร็ต และเธอเองนั้นเป็นโรคซึมเศร้า และลูกสาวของเธอได้ยืนยันว่าเธอมาโบสถ์โดยเชื่อว่าพระเจ้ามีพระวจนะสำหรับเธอ เธอรู้สึกขอบคุณที่พระเจ้าได้ตรัสกับเธอ.